ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ ใน กองบังคับการตำรวจนครบาล ๙ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติview more...

19 May 2023
20 Mar 2023

พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

โฆษก ตร. แจ้งกฎหมายใหม่ พ.ร.ก.อาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ จัดหนักเอาผิดบัญชีม้าจำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนคนจัดหาจำคุก 2 - 5 ปี พร้อมให้อำนาจสถาบันการเงินอายัด แลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทันที ผบ.ตร.กำชับพนักงานสอบสวนทั่วประเทศรับคดี ไม่ว่าเหตุเกิดที่ใด ส่วนระบบแจ้งความออนไลน์พร้อมเปิดระบบ 20 มีนาคม 2566 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ 17 มีนาคม 2566 โดยกฎหมายฉบับนี้ ออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จากการถูกหลอกหลวงฉ้อโกงออนไลน์ ตามดำริของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเจ้าภาพ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่างกฎหมายฉบับนี้ออกมา . พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) สั่งการตำรวจทั่วประเทศ ในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมาย ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว พร้อมกับแจ้งข้อกฎหมาย แนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบ . สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ประชาชนรับทราบ เข้าใจหลักการตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนี้ 1) อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกง กรรโชก และรีดเอาทรัพย์ ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้ 2) กรณีเพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ มีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยี สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้า จะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กัน เพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้ . 3) ผู้ให้บริการโทรคมนาคม มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูล ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปง. และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ 4) ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราว จากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา 72 ชั่วโมง โดยมีการระบุขั้นตอนในการระงับการทำธุรกรรม ไว้ชัดเจน และรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายทำธุรกรรมได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน และเมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้ว พนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน 7 วัน . 5) มีการเพิ่มช่องทางการแจ้งเหตุ โดยกำหนดให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลโดยง่ายและเร็ว สามารถแจ้งข้อมูลหรือหลักฐาน ทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์กับสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจได้ 6) ผู้เสียหาย สามารถแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวนที่ใดก็ได้ โดยไม่ต้องถามว่าเหตุเกิดที่ใดในประเทศไทย หรือแจ้งผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ถือว่าเป็นการร้องทุกข์ และ พงส.นั้นมีอำนาจสอบสวนตาม ป.วิ อาญาซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีวิทยุสั่งการไปยังพนักงานสอบสวนทั่วประเทศให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ จากพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาแจ้งความที่สถานีตำรวจ โดยถือว่าเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าเหตุจะเกิดที่ไหน ต้องอำนวยความสะดวกผู้เสียหาย เร่งช่วยเหลือ . 7) มีบทลงโทษเครือข่ายอาจจะทำที่รุนแรงขึ้นทั้งบัญชีม้า คนจัดหาบัญชีม้า 7.1 ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตน และห้ามไม่ให้ผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้ซิมโทรศัพท์ของตนในทั้งที่รู้หรือควรจะรู้ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (บัญชีม้า) 7.2 ห้ามไม่ให้ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือซิมโทรศัพท์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการกระทำความผิดอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,0000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (คนจัดหาบัญชีม้า) . โฆษก ตร.กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำ กำชับหน่วยในการปฏิบัติตาม พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากอาชญากรรมคดีออนไลน์ . ขอประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมว่า ระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com ได้การปิดทำการเพื่อปรับปร

20 Mar 2023

5 อุบายมาแรง โจรออนไลน์

5 อุบายมาแรง โจรออนไลน์ ไม่หลง ไม่เชื่อ ไม่กดลิงก์ ไม่โอน 1 ปี ประชาชนแจ้งความออนไลน์ 2 แสนราย โจรออนไลน์ปรับรูปแบบหลอกเหยื่อ สูญเงิน 3 หมื่นล้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งรัดป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะภัยออนไลน์ ที่เกิดขึ้น และสร้างความตระหนักรู้เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันภัยออนไลน์ให้แก่ประชาชน . เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ในรอบปีที่ผ่านมา และภัยออนไลน์ที่เกิดขึ้นใหม่ในรอบสัปดาห์ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีภูมิป้องกันภัยออนไลน์ ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ . พบว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (1 มีนาคม 2565-11 มีนาคม 2566) พบว่ามีการรับแจ้งความคดีออนไลน์ 10 อันดับแรก ได้แก่ . คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คดีหลอกให้ลงทุน(ที่ไม่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชน) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน คดีหลอกให้โอนเงิน(ไม่เป็นขบวนการ) คดีหลอกให้รักแล้วลงทุน และ หมิ่นประมาท ดูหมิ่น รวมทั้งปีมีผู้แจ้งความ 218,210 กรณี มูลค่าความเสียหายรวม 31,579,305,746 บาท . ขณะที่ในรอบสัปดาห์ ระหว่าง วันที่ 5-11 มีนาคม 2566 พบว่ามีการรับแจ้งความคดีออนไลน์ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 3) คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4) คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 5) คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน รวมทั้งสัปดาห์มีผู้แจ้งความ 5,787 กรณี มูลค่าความเสียหายรวม 377,284,886 บาท . อย่างไรก็ตามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่หลอกลวงประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยที่สำคัญประชาชนต้องมีวัคซีนป้องกันโจรออนไลน์ มีสติ ไม่หลงเชื่อ ไม่โอนเงิน ไม่กดลิงก์ ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว . ทั้งนี้แจ้งความออนไลน์ได้ที่ https://thaipoliceonline.com และสามารถโทรสายด่วน 1441 ขอคำปรึกษา แจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือ

20 Mar 2023

เตือนภัย "มิจฉาชีพ" แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง

เตือนภัย "มิจฉาชีพ" แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง เสนอช่วยเรื่อง "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ขณะนี้พบว่ามิจฉาชีพจำนวนมากหลอกลวงประชาชน โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง ผ่านทางแอปพลิเคชั่น LINE หลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ และแนะนำให้ทำธุรกรรมในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง หรือถูกหลอกถามข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ ทางด้านกระทรวงการคลังได้ออกมายืนยันว่า ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ LINE หรือติดต่อไปพูดคุย ให้ความช่วยเหลือ หรือแจ้งผลการตรวจสอบสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ประชาชนรับทราบ หรือแนะนำให้มีการดำเนินธุรกรรมต่างๆแต่อย่างใด จึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อดำเนินการธุรกรรมใดๆ หรือให้ข้อมูลใดๆ ตามคำหลอกลวงของมิจฉาชีพ ✅✅ และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ในช่องทางต่างๆของกระทรวงการคลัง ได้ผ่านเว็บไซต์ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th หรือโทร 02-1092345 เวลา 08.30 - 17.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ) ========================== ติดตาม PCT POLICE เพื่อรู้ทันความคิดของโจรออนไลน์ โทรปรึกษาสอบถาม 1441 หรือ 081-866-3000 แจ้งความออนไลน์ ได้ที่ https://www.thaipoliceonline.com/

Page 1 of 2